นพ.วิทิต อรรถเวชกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รพ.ปิยะเวท เปิดเผยถึง กรณี นายณวัฒน์ ที่เข้ามารักษาตัวในโรงพยาบาลตั้งแต่ 3 ก.ค. เนื่องจากป่วยโควิด ซึ่งโรงพยาบาลได้รับไว้รักษาตัว ซึ่งในบางช่วงมีอาการป่วยรุนแรง ทางแพทย์ และพยาบาล ได้ช่วยกันรักษา จนอาการดีขึ้นตามลำดับ ขณะที่สถานการณ์ภายนอกรุนแรงขึ้น มีผู้ป่วยจำนวนมากที่รอเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยสูงอายุ ตั้งครรภ์ รวมทั้งเด็กเล็ก เพราะฉะนั้น ทุกโรงพยาบาล น่าจะประสบภาวะเดียวกัน ทางฝ่ายบริหารจึงขอความร่วมมือไปยังผู้ป่วยทุกท่าน โดยไม่เลือกปฏิบัติ สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการดีขึ้น ให้ไปพักรักษาต่อที่ Hospitel หรือ รักษาตัวต่อที่บ้าน (Home Isolation) ซึ่งร่วมมือกับ สปสช. และอีกหลายหน่วยงาน
ทั้งนี้ ด้วยการสื่อสารที่อาจทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อนทั้ง 2 ฝ่าย จึงเกิดเรื่องที่เป็นไปตามกระแสข่าวในช่วง 1-2 วันนี้ อย่างไรก็ดี อยากเรียนว่า หลังจากที่ได้พูดคุยกันระหว่างรองผู้อำนวยการ ซึ่งดูแลการบริหารด้านนี้อยู่ จนถึงเมื่อวานเราก็ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร นายณวัฒน์ ก็รักษาตัวตามปกติ โดยมีทีมแพทย์ และพยาบาลชุดเดิม เป็นผู้ดูแล แต่เมื่อวานนี้เวลา 22.00 น. โดยประมาณ ตนได้รับสายจากนายณวัฒน์ว่า จะกลับไปพักฟื้นที่บ้าน ซึ่งเป็นความสมัครใจที่จะขอกลับบ้าน ซึ่งตนได้อนุญาต เนื่องจากดูตามประวัติการรักษาแล้ว สามารถกลับบ้านได้ โดยจะมีทีมแพทย์ที่ดูแลอยู่ประจำ โทรเข้าไปติดตามสุขภาพ และภาวะต่างๆ ต่อจากนี้ไป โดยนายณวัฒน์ ได้เดินทางกลับไปเมื่อช่วงเช้าตรู่วันนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทั้งสองฝ่ายพูดคุยว่าจะดูแลต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ เรายังมีภารกิจที่ต่อสู้กับโควิดอีกนาน และมีอีกหลายเรื่องที่เราต้องช่วยกัน ส่วนของคุณณวัฒน์ ก็ได้รักษาจนเสร็จสมบูรณ์ และอนุญาตให้กลับบ้านตามที่ร้องขอ
เมื่อสอบถามถึงสาเหตุที่ต้องให้เปิดกล้องวงจรปิด นพ.วิทิต ระบุว่า ในการรักษาโรคโควิด-19 บางช่วง เราต้องติดตามอาการผู้ป่วย ซึ่งต้องอาศัยกล้องวงจรปิด แต่เราต้องขออนุญาตผู้ป่วยก่อน เนื่องจากเป็นสิทธิส่วนบุคคล ทั้งนี้ ก็เพื่อความสะดวกในบางกรณี
ต่อข้อถาม นายณวัฒน์ มีการอ้างว่า อาการยังไม่ดีขึ้น แพทย์ระบุว่า เรามีการวัดความเข้มข้นออกซิเจนที่ปลายนิ้ว และเห็นว่าค่าออกซิเจนสูงพอที่จะสามารถกลับไปพักฟื้นต่อที่บ้าน หรือ hospitel ได้ ด้วยค่าที่มันสูงขึ้นมากว่าเดิมเยอะ ปลอดภัย ไม่ถึงกับ 100% เหมือนคนทั่วไป ส่วนกรณีที่เห็นใส่ที่ช่วยหายใจ เป็นหน้ากากให้ออกซิเจนธรรมดา ไม่ใช่การใส่ท่อช่วยหายใจ เหมือนคนไข้ใน ICU แล้วแต่คนไข้ว่าจะใส่หรือถอดก็ได้ บางครั้งทำกิจกรรมอะไรนานๆ ซึ่งก็อาจจะมีอาการเหนื่อยให้เห็นได้ ในระยะพักฟื้น
นพ.วิทิต กล่าวด้วยว่า ตนคิดว่า นโยบายของ รพ. เราดูแลทั้งร่างกายและจิตใจ คนไม่สบาย อาจไม่สบายใจ ทาง รพ. คงไม่คิดที่จะเรียกร้อง หรือดำเนินคดีใดๆ ทั้งนี้ ระหว่างการรักษา เราไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปใน รพ. แต่ในห้องส่วนตัว ผู้ป่วยจะไลฟ์ เราก็ไม่เคยออกกฎห้ามโดยตรง แต่การพาดพิงองค์กร หรือบุคคลที่สาม ก็ต้องรับผิดชอบ แต่ทางเราก็พยายามที่จะให้เรื่องราวนี้จบลงด้วยดี วันนี้เราก็มาเล่าให้ฟังว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร แต่เรื่องกรณีความขัดแย้งต่างๆ มีแพทย์บางคนที่ถูกพาดพิง ก็ต้องให้แพทย์ท่านนั้นตัดสินใจว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อไป
นอกจากนี้ ยืนยันว่า ทางโรงพยาบาลไม่ได้ไล่แพทย์ท่านดังกล่าวออก แต่เมื่อไม่สบายใจ และอาจทำให้สมาธิในการทำงานมีปัญหา โดยแพทย์ขอพักร้อน จึงให้พักผ่อนชั่วคราว เมื่อครบกำหนดก็จะกลับมาปฏิบัติหน้าที่ต่อ ขณะที่โรงพยาบาล ได้มีการสอบหาข้อเท็จจริงภายใน.
https://ift.tt/3kOlbGb
บ้าน
Bagikan Berita Ini
0 Response to "รพ. เคลียร์ ดราม่า "ณวัฒน์" เจ้าตัวกลับบ้านแล้วแต่เช้า ยันไม่ได้ไล่ออกแพทย์ - ไทยรัฐ"
Post a Comment