
บ้านขนาดที่คนหัวโมเดิร์นคิดว่ากำลังดี ส่วนใหญ่ไม่ถึง 40 ตร.ม. ความเป็นจริงเริ่มมีมาเมื่อ 20-30 ปีก่อน จนมาปรากฏออกทางสถานีโทรทัศน์ เช่น HGTV ที่มีรายการเกี่ยวกับบ้าน จุดปะทุเทรนด์นี้ขึ้น ลูกค้าหลายคนเริ่มแสวงหา สาเหตุส่วนหนึ่งก็มาจากปัญหาวิกฤติทางเศรษฐกิจ งบประมาณจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจ โดยบ้านที่มีพื้นที่ 200 ตร.ฟุต หรือราวๆ 18 ตร.ม. พร้อมตกแต่งภายในตามใจลูกค้าใช้เงินราว 50,000 เหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 1.5 ล้านบาท
มร.มาร์คัส สโตลต์ซฟัส ผู้อำนวยการฝ่ายการขายและการตลาด บริษัท Liberation Tiny Homes เผยว่า ในบางแห่งทั่วประเทศ ประชาชนตระหนักว่า การใช้พื้นที่ในการอาศัยอยู่ให้น้อยลงเป็นผลดีต่อไลฟ์สไตล์ตัวเองได้เป็นอย่างมาก
ยกตัวอย่าง มร.สก็อตต์ แบร์ริเออร์ ซึ่งย้ายเข้าบ้านจิ๋วแต่แจ๋วขนาด 34 ตร.ม. กับนางเมลิซซา ภริยาได้ 4 เดือน บอกว่า รู้สึกมีความสุขที่ไม่ต้องเป็นเจ้าเข้าเจ้าของอะไรมากมายเหมือนแต่ก่อน ทุกอย่างดูน้อยลง เป็นอยู่ง่ายขึ้นและใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น ความแตกต่างที่สังเกตได้อย่างชัดเจนคือ ตนเองกับภรรยาใช้ทุกๆพื้นที่ ไม่มีพื้นที่ไหนเสียเปล่าเลย แม้มีเพื่อนๆเตือนว่าให้ระวังจะเป็นโรคกลัวในที่แคบ หรือยังมีบางคนทัศนคติในเชิงลบ แต่เชื่อว่าความเปลี่ยนแปลงกำลังมา เพราะไม่เพียงประหยัดพื้นที่ แต่ยังช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อน ไม่ต้องใช้ไฟ ใช้น้ำให้สิ้นเปลืองเหมือนบ้านแบบเดิมๆ
แต่ปัญหาก็ยังต้องมี เพราะยังติดขัดเรื่องกู้เงินซื้อบ้านกับทางธนาคาร ที่มีข้อจำกัดสำหรับคนคิดอยากมีบ้านแล้วยุ่งยาก โดยธนาคารมีนโยบายให้กู้ระยะปานกลางมากสุด 7 ปีแทน ที่สำคัญดอกเบี้ยสูงกว่าอัตรากู้ยืมซื้อบ้านแบบทั่วๆไป นอกจากนี้ ยังมีเรื่องข้อกฎหมาย เพราะชุมชนและตามเมืองส่วนใหญ่ห้ามประชาชนอาศัยอยู่ในที่ๆมีล้อเคลื่อนที่ และบ้านต้องมีพื้นที่อย่างน้อย 83 ตร.ม.
ฤทัยรัช จันทร์เพ็ญ
https://ift.tt/3mM2mog
บ้าน
Bagikan Berita Ini
0 Response to "มะกันเล็งบ้านจิ๋วแต่แจ๋ว - ไทยรัฐ"
Post a Comment