ระทึกดินทรุดทำบ้านพังทั้งหลัง ตายายวิ่งหนีออกมารอดหวุดหวิด - ช่อง 7

นี่เป็นภาพความเสียหายของบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวใต้ถุนสูง สร้างอยู่ติดคลองชลประทาน ใกล้กับแม่น้ำน้อย ช่วงเขตหมู่ 3 ตำบลเจ้าเจ็ด ได้พังถล่มลงมาเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา

ซึ่งจากภาพที่ปรากฏจะเห็นว่าทั้งมีเศษไม้, พื้นบ้าน, เสาบ้าน, เศษสังกะสีมุงหลังคา และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ตกลงไปจมอยู่ในน้ำได้รับความเสียหายทั้งหมด โดยหลังเกิดเหตุแล้วได้มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลเจ้าเจ็ด อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และชาวบ้านไปช่วยกันรื้อซากปรักหักพัง ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ไปเจอลูกแมว ส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ จึงลงไปช่วยชีวิตไว้ได้ 1 ตัว

สอบถามเจ้าของบ้านก็คือ นายชาญ ฤกษ์เสรี อายุ 80 ปี และ นางมะลิ ฤกษ์เสรี อายุ 73 ปี ทั้งคู่เป็นสามีภรรยากัน เล่าว่า บ้านหลังนี้อยู่ด้วยกัน 3 คน (ตายายและลูก) โดยอาศัยอยู่มานานหลายสิบปีแล้ว ตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ จึงรักและมีความผูกพันเป็นอย่างมาก แม้ว่าปัจจุบันโครงสร้างของบ้านที่สร้างด้วยไม้ จะเริ่มทรุดโทรมไปกาลเวลา ก็ยังใช้ชีวิตอยู่เรื่อยมา โดยหวังว่าสักวันจะมีเงินเหลือพอเป็นค่าวัสดุซ่อมแซมบ้านหลังนี้ได้บ้าง แต่มาเกิดเหตุการณ์นี้เสียก่อน โดยช่วง 2 - วัน ก่อนที่จะเกิดเหตุ ตายายบอกว่าได้ยินเสียงดังสนั่นคล้ายไม้เบียดกัน กระทั่งช่วงค่ำของวันที่ 23 กันยายน 2564 จู่ๆ ก็เกิดเสียงดังอีกครั้ง และถือว่าเคราะห์ยังดีที่ตอนนั้นยังไม่เข้านอน ทำให้รู้ตัวเร็ว พากันหนีออกมานอกบ้านได้ก่อนที่โครงสร้างบ้านทั้งหลังจะถล่มลงมา ไม่อย่างนั้นอาจได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิตไปแล้ว

ส่วนสาเหตุเบื้องต้นคาดว่า น่าจะเกิดจากบ้านอยู่ในสภาพเก่า เมื่อระดับน้ำล้นคลองขึ้นมาท่วมพื้นดินใต้ถุนบ้าน จึงทำให้ดินทรุดตัว จนบ้านพังถล่มลงมา ขณะที่ นายมนต์ชัย พุฒใจกล้า รองนายกเทศมนตรีตำบลเจ้าเจ็ด อำเภอเสนา บอกว่า เบื้องต้นจะส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยรื้อถอนซากปรักหักพัง นำออกจากพื้นที่ให้หมดก่อน ส่วนการเยียวยาให้ช่วยเหลือด้านอื่นๆ ต้องขอศึกษาดูระเบียบอีกครั้งว่าจะสามารถช่วยเหลือตายาย อะไรได้บ้าง

Adblock test (Why?)