โลกดิจิทัลแม้จะสร้างความสะดวก รวดเร็ว แต่ก็เต็มไปด้วยความเสี่ยงรูปแบบใหม่ ไม่เพียงแต่การโจรกรรมข้อมูล ขโมยเงินจากบัญชีออนไลน์ แต่ยังรวมถึงความเสี่ยงจากระบบสมาร์ทคาร์ หรือรถยนต์ไร้คนขับ ระบบบ้านอัจฉริยะ เป็นต้น ทำให้เงื่อนไขความคุ้มครองในแบบเดิมไม่ไม่เพียงพอ หรือครอบคลุมภัยใหม่ๆ บริษัทประกันภัยจึงมีการพัฒนาแผนคุ้มครองเพื่อสอดรับกับวิถีชีวิตที่เปลี่ยน และประกันไซเบอร์ก็เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อบริหารความเสี่ยงสำหรับยุคดิจิทัล
อาชยากรรมทางไซเบอร์ที่มาพร้อมกับโลกยุคดิจิทัล ไม่เพียงก่อความเสียหายกับองค์กรขนาดใหญ่เท่านั้น หากผู้บริโภครายบุคคลก็ได้รับการโจมตีไม่ต่างกัน ซึ่งดร.สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH ให้ความเห็นว่า ก่อนหน้านี้การโจมตีทางไซเบอร์จะโดนกับองค์กรขนาดใหญ่ แฮกเกอร์ (Hacker) จะทำการโจรกรรมข้อมูลสำคัญเพื่อเรียกค่าไถ่ แต่ทุกวันนี้ เป้าหมายการโจมตีเกิดขึ้นกับรายบุคคลที่มีการทำธุรกรรมบนระบบออนไลน์
แนวโน้มการเติบโตของอาชยากรรมทางไซเบอร์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และธุรกิจประกันภัยก็เล็งเห็นถึงความเสี่ยงดังกล่าวมานานแล้ว ทำให้ที่ผ่านมามีการออกประกันไซเบอร์แต่เน้นไปที่กลุ่มลูกค้าองค์กร แต่ปัจจุบันก็ขยายความคุ้มครองมายังกลุ่มลูกค้ารายย่อย
ประกันรถในยุคไร้คนขับ
ดร.สมพร ยังบอกด้วยว่า การเปลี่ยนแปลงของโลกที่เข้าสู่ยุคดิจิทัล ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆ ธุรกิจประกันภัยเองก็ต้องมีการปรับรูปแบบของผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับความเสี่ยงใหม่ๆที่เกิดขึ้นประกันภัยไซเบอร์เป็นหนึ่งในความคุ้มครองที่ถูกพัฒนาขึ้น และในอนาคตอันใกล้ประกันภัยรถยนต์ก็จะเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ต้องปรับให้ทันกับเทคโนโลยี
“ประกันรถยนต์วันนี้ความเสี่ยงมาจากตัวผู้ขับขี่ แต่ในอนาคตเมื่อมีรถยนต์ไร้คนขับ ความเสี่ยงจากอุบัติเหตุอาจมาจากตัวรถ ระบบในกาควบคุม ดังนั้นประกันรถยนต์ที่จะออกมาในอนาคตก็ต้องเขียนเงื่อนไขความคุ้มครองขึ้นมาใหม่ รวมถึงอาจมีนวัตกรรมความคุ้มครองใหม่ๆเกิดขึ้นอีกมากมายในยุคดิจิทัล”
TIP PERSONAL CYBER
สำหรับ แผนประกันไซเบอร์ในส่วนของ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ TIP บริษัทลูกของ TIPH ให้ความคุ้มครองกับลูกค้ารายบุคคล ประกันภัย TIP PERSONAL CYBER 1.คุ้มครองการถูกโจรกรรมเงินผ่านช่องทางออนไลน์จากบัญชีส่วนตัวไม่ว่าจะเป็นบัตรชำระเงิน การเข้าสู่บัญชีธนาคาร หรือกระเป๋าเงินออนไลน์ โดยไม่ได้รับอนุญาต คุ้มครอง 2.ความสูญเสียตามจำนวนธุรกรรมจากการถูกฉ้อโกงให้ซื้อสินค้าหรือบริการผ่านช่องทางออนไลน์ และไม่ได้รับสินค้าหรือบริการนั้น ทั้งในกรณีที่ของไม่ถูกส่งมายังผู้รับ หรือกรณีส่งของมาผิดประเภท
3.ถูกหลอกลวงให้ขายสินค้าทางอินเทอร์เน็ตและ ได้มีการจัดส่งสินค้าให้กับผู้ซื้อสินค้าออนไลน์แล้ว แต่ผู้เอาประกันภัยไม่ได้รับการชำระเงินค่าสินค้าดังกล่าวภายใน 7 วัน 4.คุ้มครองความสูญเสียหรือความเสียหายต่อชื่อเสียงของผู้เอาประกันภัย อันเกิดจากการกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ต (Cyber Bullying) เป็นต้น
TIP มีให้เลือก 10 แผน เบี้ยเริ่มต้นที่ 179 บาท ไปจนถึง 3,000 บาท กับวงเงินคุ้มครองหลักหมื่นต้น ๆ ที่ 15,000 บาท สูงสุด 200,000 บาท โดยเงื่อนไขความคุ้มครองของแต่ละแผนยังมีความแตกต่างกันเพื่อให้ผู้เอาประกันสามารถเลือกแผนที่ตรงกับความต้องการ และมีจุดเด่นที่บางแผนเพิ่มความคุ้มครองระบบบ้านอัจฉริยะ
ประกันภัยไซเบอร์BKI
นอกจากนี้ บริษัทกรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI ที่มีประกันภัยไซเบอร์ โดยในส่วนของ BKI มี 3 แผน 1.เบี้ยเริ่มต้นที่ 200 บาท ความคุ้มครอง 20,000 บาท 2.เบี้ย 500 บาท ความคุ้มครอง 50,000 บาท และ3.เบี้ย 1,150บาท ความคุ้มครอง 100,000 บาท
ความคุ้มครอง ได้แก่ 1.การถูกโจรกรรมเงินทางอินเทอร์เนตเช่นถูกโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคล 2.ความคุ้มครองจากการกรรโชกทรัพย์ทางอินเทอร์เนต เช่นการเรียกค่าไถ่ 3.คุ้มครองความสูญเสีย หรือเสียหายของชื่อเสียง(Cyber Bullying) จากการถูกกลั่นแกล้ง ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คคี และค่าใช้จ่ายในการรักษาทางจิตวิทยา ในส่วนนี้ BKI จะให้ความคุ้มครอง
3.ให้ความคุ้มครองจากการถูกหลอกให้ซื้อสินค้าทางออนไลน์ โดยมีการชำระค่าสินค้าแล้วแต่ไม่ได้รับของภายใน 30 วัน 4.คุ้มครองการถูกหลอกให้ขายสินค้าทางอินเทอร์เนต และมีการจัดส่งสินค้าไปแล้ว แต่ผู้เอาประกันภัยยังไม่ได้รับเงินค่าสินค้า โดยความคุ้มครองส่วนนี้จะมีเฉพาะแผน 3 ที่มีทุนประกันคุ้มครองสูงสุด 100,000 บาท ทั้งนี้ผู้เอาประกันภัยควรศึกษาข้อมูลความคุ้มครองโดยละเอียดเพื่อทำความเข้าใจกับเงื่อนไข
MTI เบี้ยเริ่มต้น129บาท
ขณะที่ บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ MTI มีประกันไวเบอร์ให้เลือกถึง 5 แผน สำหรับลูกค้ารายบุคคล เบี้ยประกันภัยเริ่มต้นที่ 129 บาท สูงสุดที่ 1,150 บาท ภายใต้ทุนประกันเริ่มต้นที่ 5,000 บาท ไปจนถึง 150,000 บาท
โดย 1..ความคุ้มครอง การโจรกรรรมข้อมูลผ่านช่องทางออนไลน์ 2.คุ้มครองเงินส่วนตัวที่หายจากบัตร บัญชี หรือกระเป๋าเงินออนไลน์ 3. คุ้มครองผู้ซื้อสินค้าออนไลน์ ทั้งในและต่างประเทศ โดยมีเงือนไขว่าไม่ได้รับของภายใน 7วัน นับจากวันที่ผู้ขายแจ้งจัดส่งสินค้า หรือสินค้าสูญหาย เป็นต้น 4. คุ้มครองการถูกหลอกขายสินค้าโดยไม่ได้รับค่าสินค้า 5. คุ้มครองการถูกดูหมิ่น หรือหมิ่นประมาทผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งนี้ แต่ละแผนจะให้ความคุ้มครอง และวงเงินความคุ้มครองแตกต่างกันตามแต่ที่ลูกค้าเลือกซื้อ
ในประเทศไทยความเสี่ยงบนโลกไซเบอร์เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะอาชยากรทางไซเบอร์ไม่ได้มีอยู่แค่ในประเทศเท่านั้น แต่อยู่ทั่วโลกเพื่อทำการหาช่องโหว่ในการขโมยข้อมูลสำคัญ รวมถึงการขโมยเงินแบบออนไลน์ และจากแนวโน้มที่เกิดขึ้นเช่นนี้ ประกันไซเบอร์แบบรายบุคคลน่าจะเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีอนาคตสำหรับตลาดประกันภัย แม้ทุกวันนี้จะยังไม่ค่อยได้รับความสนใจเท่าไรนัก
https://ift.tt/3GtkydQ
บ้านอัจฉริยะ
Bagikan Berita Ini
0 Response to "เช็กสต๊อกแผนคุ้มครองไซเบอร์ เทรนด์ใหม่ประกันรถไร้คนขับ - TrueID News"
Post a Comment