ขแผนของโอริสจอห์นสันในการเร่งความทะเยอทะยานด้านสภาพอากาศของสหราชอาณาจักรในช่วง 15 ปีข้างหน้าซึ่งเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วจะเร่งความก้าวหน้าไปสู่เศรษฐกิจที่เป็นกลางโดยคาร์บอนภายในปี 2593 เป้าหมายใหม่ – เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนของสหราชอาณาจักรลง 78% เมื่อเทียบกับระดับ 1990ภายในปี 2035 – ทำให้คำมั่นสัญญาก่อนหน้านี้สำหรับก ลด 68% ภายในปี 2573. ความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่กว่านี้สามารถเพิ่มโชคลาภของเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำหลายตัวที่พร้อมสำหรับการเปิดตัวอย่างรวดเร็ว นี่คือผู้ชนะและผู้แพ้จากเป้าหมายใหม่
ผู้ชนะ
ที่เก็บแบตเตอรี่ นักพัฒนาแหล่งกักเก็บพลังงานเป็นหนึ่งในผู้ที่ต้องการได้รับประโยชน์จาก“ กรีนวิ่ง” ของสหราชอาณาจักร ระบบไฟฟ้าได้ตอบสนองความรับผิดชอบในการตัดคาร์บอนของสหราชอาณาจักรเป็นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเนื่องจากพลังงานหมุนเวียนที่เพิ่มขึ้นและการปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ก่อมลพิษอย่างต่อเนื่อง แต่สหราชอาณาจักรจะต้องเชื่อมต่อกับอนาคตไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้นเพื่อขับเคลื่อนรถยนต์ไฟฟ้าและระบบทำความร้อนภายในบ้านแบบคาร์บอนต่ำซึ่งจะหมายถึงการผลิตไฟฟ้าหมุนเวียนทุกเมกะวัตต์
กังหันลมและโซลาร์ฟาร์มจำนวนมากขึ้นคาดว่าจะเกิดขึ้นตามชายฝั่งและเนินเขาของสหราชอาณาจักร แต่ประเทศจะต้องใช้แบตเตอรี่มากขึ้นเพื่อเก็บพลังงานสะอาดไว้ในวันที่ยังคงเป็นสีเทา วันนี้มีที่เก็บแบตเตอรี่ที่ติดตั้ง 1.2GW ในสหราชอาณาจักร แต่เป็นท่อของโครงการ รวม 14.5GW สามารถเริ่มควบคุมพลังงานได้ในไม่ช้า จากกังหันลมและแผงโซลาร์เซลล์ในบริเวณใกล้เคียงในอีกหลายปีข้างหน้า
ผู้เชี่ยวชาญด้านบ้านสีเขียว เตาในครัวเรือนและหม้อต้มก๊าซคิดเป็นประมาณ 15% ของการปล่อยคาร์บอนของสหราชอาณาจักร ในปี 2019 คณะกรรมการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างเป็นทางการของรัฐบาลได้เตือนว่าที่อยู่อาศัยของสหราชอาณาจักร“ ไม่ได้เตรียมตัวอย่างน่าตกใจ” สำหรับความท้าทายของเป้าหมายคาร์บอนสุทธิที่เป็นศูนย์ ตั้งแต่นั้นมารัฐบาลก็ปลดระวาง มอบบ้านสีเขียว 1.5 พันล้านปอนด์ซึ่งสัญญาว่าจะนำเงินจำนวนมากถึง 5,000 ปอนด์ (หรือในบางกรณี 10,000 ปอนด์) เพื่อใส่ฉนวนกันความร้อนหรือเครื่องทำความร้อนแบบคาร์บอนต่ำ พูดง่ายๆก็คือเป้าหมายสภาพอากาศที่รุนแรงขึ้นในปี 2035 จะทำให้ผู้กำหนดนโยบายต้องทำมากมายและอาจหมายถึงงานที่อาจเกิดขึ้นได้สำหรับกองทัพของธุรกิจขนาดเล็กที่ติดตั้งปั๊มความร้อนเตาไฟฟ้าและหน้าต่างกระจกสองชั้น
แผงโซลาร์เซลล์ในบ้านที่มีชุดแบตเตอรี่ขนาดเล็กที่เชื่อมโยงกับที่ชาร์จในรถยนต์และเครื่องใช้ในบ้านอัจฉริยะก็มีแนวโน้มที่จะเติบโตเช่นกัน รายงานโดย Thinktank ของ Green Alliance ประเมินว่าบ้าน 29 ล้านหลังในสหราชอาณาจักรจะต้องมีงานอย่างน้อยเพื่อให้ได้เกรดในอนาคตที่ไม่เป็นคาร์บอน – แต่จะสร้างงานได้ 190,000 ตำแหน่งช่วยประหยัดค่าพลังงานได้ 7.5 พันล้านปอนด์ต่อปีและช่วยให้ง่ายขึ้น กดดัน NHS โดยการป้องกันความเจ็บป่วย
โรงงานรีไซเคิล การปล่อยก๊าซคาร์บอนจากขยะของสหราชอาณาจักรคิดเป็น 6% ของคาร์บอนฟุตพรินต์ทั้งหมดของประเทศ ซึ่งรวมถึงขยะในครัวเรือนที่ใช้ในการฝังกลบและเตาเผาตลอดจนการบำบัดน้ำเสียและการทำปุ๋ยหมัก ผู้มีส่วนร่วมในการปล่อยมลพิษที่มักถูกมองข้ามนี้ล้มเหลวในการแสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงอย่างมากตั้งแต่ปี 2013 แต่ภายใต้เส้นทางที่ทะเยอทะยานมากขึ้นของรัฐบาลไปสู่ศูนย์สุทธิจะไม่มีที่ว่างสำหรับความล่าช้า มีการเรียกเก็บภาษีใหม่เพื่อกำหนดเป้าหมายบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ไม่มีพลาสติกรีไซเคิลอย่างน้อย 30% และรัฐบาลยังตั้งเป้าหมายว่าจะนำขยะจากครัวเรือน 65% ไปรีไซเคิลภายในปี 2578 และสูงสุด 10% ขยะของเทศบาลจะไปฝังกลบ
บริษัท รีไซเคิล DS Smith เตือนเรื่องนี้แล้ว สหราชอาณาจักรมีแนวโน้มที่จะพลาดเป้าหมายปี 2035 นี้อย่างน้อย 13 ปี โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอย่างกว้างขวางในสถานที่เก็บขยะและรีไซเคิลของสหราชอาณาจักร ด้วยแรงจูงใจที่เพิ่มขึ้นของรัฐบาลในการลดการปล่อยก๊าซอุตสาหกรรมจึงอยู่ในแนวเดียวกันสำหรับการสั่นคลอน
การดักจับคาร์บอน เทคโนโลยีที่สามารถดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากโรงงานและโรงไฟฟ้าก่อนที่มันจะขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศคาดว่าจะมีบทบาทสำคัญในแผนปฏิบัติการด้านสภาพอากาศของสหราชอาณาจักร นายกรัฐมนตรีได้ให้คำมั่นสัญญากับกองทุนสาธารณะจำนวน 1 พันล้านปอนด์เพื่อช่วยในการพัฒนา แผนการดักจับคาร์บอนหลักสี่ประการ ในสหราชอาณาจักรภายในปี 2573 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการของเขาสำหรับ“ การปฏิวัติอุตสาหกรรมสีเขียว”
นักวิจารณ์แผนเชื่อว่าความไม่แน่นอนและต้นทุนหมายความว่าสหราชอาณาจักรจะดีกว่าในการหาทางเลือกที่มีคาร์บอนต่ำ รัฐบาลเองได้ยกเลิกแผนการดักจับคาร์บอนก่อนหน้านี้ เนื่องจากความกังวลที่คล้ายกัน. แต่การกำหนดเส้นตายที่เข้มงวดมากขึ้นในการลดการปล่อยก๊าซมีแนวโน้มที่จะเพิ่มแรงกดดันต่อโครงการดักจับคาร์บอนซึ่งสามารถดักจับขนส่งและกักเก็บการปล่อยก๊าซได้อย่างถาวรโดยเฉพาะจากอุตสาหกรรมหนัก นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเอดินบะระเตือนว่าอาจมีการดักจับคาร์บอน วิธีเดียวที่ได้ผลในสหราชอาณาจักรในระยะสั้น เพื่อป้องกันไม่ให้อุตสาหกรรมเหล็กและการผลิตปูนซีเมนต์ปล่อยมลพิษสู่ชั้นบรรยากาศต่อไป
แต่แผนจะถามคำถามเร่งด่วนเพิ่มเติมสำหรับอุตสาหกรรมที่เสี่ยงต่อการถูกทิ้ง
ผู้แพ้
ทะเลเหนือ เมื่อเดือนที่แล้วรัฐบาลได้ทำ “ข้อตกลงสำคัญ” กับอุตสาหกรรมน้ำมันในทะเลเหนือเพื่อช่วยภาคส่วนนี้ในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในขณะที่ยังคงสำรวจหาโอกาสใหม่ ๆ ในการผลิตน้ำมันและก๊าซ จับ? บริษัท น้ำมันจะต้อง เพื่อผ่านการทดสอบ “ความเข้ากันได้ของสภาพอากาศ” ซึ่งพิสูจน์ได้ว่าแต่ละแอปพลิเคชั่นในการดึงเชื้อเพลิงฟอสซิลจากทะเลเหนือนั้น“ เข้ากันได้กับ วัตถุประสงค์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสหราชอาณาจักร”.
ความทะเยอทะยานด้านสภาพอากาศที่สดใหม่ของสหราชอาณาจักรจะทำให้ปัญหานี้เป็นอุปสรรคที่ยากขึ้นในการล้างเนื่องจากความต้องการเชื้อเพลิงฟอสซิลในประเทศอาจลดลงเร็วกว่าที่คาดไว้ในตอนแรก เป้าหมายในปี 2035 มีแนวโน้มที่จะก้าวไปสู่การทำความร้อนในบ้านด้วยคาร์บอนต่ำและทำให้สหราชอาณาจักรมีความเข้มงวดมากขึ้นในการดำเนินการโรงไฟฟ้าก๊าซเว้นแต่จะติดตั้งเทคโนโลยีการดักจับคาร์บอน โรงไฟฟ้าก๊าซหม้อไอน้ำในบ้านและเตาแก๊สที่มีจำนวนน้อยลงอาจทำให้ความต้องการของสหราชอาณาจักรลดลงอย่างมีนัยสำคัญและทำให้ยากที่จะพิสูจน์ให้เห็นถึงการขุดเจาะทะเลเหนือเพิ่มเติม
โรงกลั่นน้ำมันดิบ โรงกลั่นน้ำมันของสหราชอาณาจักรมีแนวโน้มที่จะเห็นความต้องการที่ลดลงสำหรับผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงฟอสซิลของพวกเขา แผนการลดปริมาณการขนส่งของรัฐบาลซึ่งจะมีกำหนดในปลายปีนี้คาดว่าจะกำหนดแนวทางในการลดการปล่อยมลพิษจากถนนทางรถไฟและการบินและจัดหาเงินทุนเพื่อสนับสนุนระบบขนส่งสาธารณะการเดินและการขี่จักรยาน นอกจากนี้ยังอาจมีแผนการเพิ่มการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าและการขึ้นภาษีน้ำมัน เมื่อรวมกันแล้วสิ่งนี้สามารถสะกดช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับโรงกลั่นในสหราชอาณาจักรซึ่งกำลังดิ้นรนอยู่แล้วหลังจากความต้องการเชื้อเพลิงขนส่งที่ชะลอตัวลงอย่างกะทันหันในช่วงการระบาดใหญ่ โรงกลั่น Stanlow ใน Ellesmere Port ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของสหราชอาณาจักรผลิตน้ำมันดีเซลและน้ำมันเบนซินในสหราชอาณาจักรได้ 16% รวมทั้งเชื้อเพลิงการบินเกือบ 10,000 ล้านลิตรต่อปี อยู่ภายใต้แรงกดดันที่จะต้องรีไฟแนนซ์หลังจากปีที่เลวร้ายสำหรับการขาย
สายการบิน แผนการลดการปล่อยมลพิษของสหราชอาณาจักรยังนับเป็นครั้งแรกที่การปล่อยการบินระหว่างประเทศซึ่งคิดเป็น 7% ของคาร์บอนฟุตพรินต์ทั้งหมดของสหราชอาณาจักรจะรวมอยู่ในเป้าหมายสภาพภูมิอากาศ ซึ่งน่าจะหมายถึงเที่ยวบินที่น้อยลงและโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเดินทางระยะไกลน้อยลง คณะกรรมการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้เสนอแนะให้เพิ่มค่าใช้จ่ายในการบินด้วยภาษีคนบินบ่อยหรือภาษีผู้โดยสารทางอากาศที่สูงขึ้น การเปลี่ยนไปใช้การบินบ่อยครั้งน้อยลงมีแนวโน้มที่จะทำได้ง่ายขึ้นหลังจากการระบาดของโรคเมื่อหลาย บริษัท หยุดเดินทางไปประชุมแบบตัวต่อตัวและไปใช้การประชุมทางวิดีโอด้วยผลลัพธ์ที่เป็นบวกในด้านต้นทุนและประสิทธิผล
โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ขณะนี้สหราชอาณาจักรกำลังสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งแรกในรุ่นที่ไซต์ Hinkley Point C ใน Somerset และรัฐบาลกำลังเจรจากับ EDF Energy ซึ่งเป็นเจ้าของเพื่อสร้าง โรงงานนิวเคลียร์อีกแห่งที่ Sizewell ในซัฟฟอล์ก. เครื่องปฏิกรณ์ขนาดใหญ่เป็นที่ถกเถียงกันอย่างมากเนื่องจากต้นทุนที่สูงมากระยะเวลาในการก่อสร้างที่ยาวนานและมีความเสี่ยงที่จะใช้จ่ายมากเกินไปหลายพันล้านปอนด์ การให้ความสำคัญมากขึ้นในการตัดคาร์บอนภายในปี 2578 สามารถเพิ่มข้อโต้แย้งอีกประการหนึ่งกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่เพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนทางเลือกที่สามารถสร้างได้เร็วขึ้นและลดการปล่อยก๊าซได้เร็วขึ้น สิ่งนี้เป็นลางดีสำหรับโรลส์ – รอยซ์ซึ่งหวังว่าจะพัฒนา สตริงของเครื่องปฏิกรณ์แบบแยกส่วนขนาดเล็ก. สามารถเริ่มผลิตหน่วยขนาดเล็กหลายร้อยเครื่องเพื่อจ่ายไฟให้กับระบบไฟฟ้าภายในปี 2573 โดยมีความเสี่ยงที่จะเกิดความล่าช้าน้อยกว่ามากในช่วงเวลาที่การดำเนินการด้านสภาพอากาศที่รวดเร็วเป็นสิ่งสำคัญ
อ่านบทความและอื่น ๆ ( กรีน – หรืออิจฉา? ผู้ชนะและผู้แพ้ในแผนการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสหราชอาณาจักร | เศรษฐกิจสีเขียว - www.thaifrx.com )https://ift.tt/3sUxIZq
บ้านอัจฉริยะ
Bagikan Berita Ini
0 Response to "กรีน – หรืออิจฉา? ผู้ชนะและผู้แพ้ในแผนการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสหราชอาณาจักร | เศรษฐกิจสีเขียว - www.thaifrx.com"
Post a Comment