
โดยนายเริงชัย เรืองพยุงศักดิ์ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหาร บริษัท มหาชนจำกัด อัคคีปราการ ได้อธิบายขั้นตอนการทำลายสารเคมีดังกล่าวว่า ขั้นตอนแรกเราจะนำสารเคมีดังกล่าวถ่ายเข้าใส่ถังกักเก็บเอาไว้ก่อน และทยอยเผา เนื่องจากการเผาแต่ละครั้งต้องรอเวลา ซึ่งรถต้องวนกลับไปรับสารเคมีที่เหลืออีก ก็จะทำให้เสียเวลาในการวิ่งไปรับสารเคมีเที่ยวต่อไป จึงเอามากักเก็บในถังใหญ่ก่อน พอได้ปริมาณมากพอเราก็เปิดวาล์วจากถังกักเก็บฉีดพ่นเข้าไปในเตาเผาอุณหภูมิสูง 1 พันองศาฯ โดยใช้ไนโตเจนเป็นตัวดันส่งให้สารเคมีฉีดพ่นเข้าเตาเผา เพราะสารสไตรีน โมโนเมอร์นี้ ถ้ามีอุณหภูมิ 36 องศาฯ จะเริ่มมีปฎิกริยา ที่เกิดจากการรวมตัวทำให้เกิดความร้อน ถ้ามีออกซิเจนเข้าไปผสมก็จะทำให้เกิดจุดวาบไฟได้ จึงจำเป็นต้องปัจจัยที่จะทำให้เกิดจุดวาบไฟออกคืออ๊อกซิเจน แต่ก็ต้องควบคุมคือเผาได้ในปริมาณ 1 ตัน ต่อ 1 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นถ้าเราต่อจากรถโอโซน แท็งค์เข้าเตาเผาเลย รถก็จะกลับไปรับสารเคมีที่เหลือไม่ทัน เราจึงจำเป็นต้องเก็บไว้ก่อน พอจังหวะที่เหมาะสมรถพอที่จะหมุนเวียนได้ไม่สะดุดติดขัดกับแผ่นการเคลื่อนย้ายของทางราชการเราก็จะเริ่มทยอยทำเผาทำลายตามขั้นตอน
ด้านนายวัยชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ได้เดินทางมาตรวจความเรียบร้อยและดูขั้นตอนการขนย้ายเคมีดังกล่าวยังที่เกิดเหตุ และได้เปิดเผยว่า ขณะนี้ในสถานที่เกิดเหตุทุกอย่างสามารถควบคุมสถานการณ์ต่างๆ ไว้ได้หมดแล้ว ทั้งสารเคมีที่ฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศขณะเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว เหลือเพียงในดินและในน้ำเท่านั้นที่ยังพบว่ามีสารเคมีเจือปนอยู่ จึงได้ทำการยกเลิกคำสั่งอพยพสถานการณ์ฉุกเฉิน อนุญาตให้ประชาชนที่มีบ้านพักอาศัยอยู่ในรัศมี 1 กิโลเมตร สามารถกลับเข้าบ้านพักอาศัยได้ตามปกติ ส่วนในเรื่องการขนย้ายสารเคมีออกจากที่เกิดเหตุคาดว่าน่าจะใช้เวลาในการดำเนินประมาณ 5 วัน น่าจะแล้วเสร็จ อ่านบทความและอื่น ๆ ( ปลอดล็อก ชาวบ้านในรัศมี 1 กม. เหตุไฟไหม้โรงงาน ย่านกิ่งแก้ว กลับเข้าบ้านได้ - ช่อง 7 )
https://ift.tt/2VuPK9u
บ้าน
Bagikan Berita Ini
0 Response to "ปลอดล็อก ชาวบ้านในรัศมี 1 กม. เหตุไฟไหม้โรงงาน ย่านกิ่งแก้ว กลับเข้าบ้านได้ - ช่อง 7"
Post a Comment