
แต่ในทางคดีที่ถูกดำเนินคดีก็ยังไม่สิ้นสุดสักที จึงมาทวงถามความคืบหน้าว่าเมื่อไหร่จะสิ้นสุด โดยกลุ่มผู้ชุมนุม 255 คนได้ขนเต็นท์ ขนอุปกรณ์ประกอบอาหารเตรียมปักหลักนอนค้างคืนหน้าศาลากลางหากไม่ได้รับคำตอบที่คืบหน้า
โดยกลุ่มราษฎรบ้านไร่น้ำหิน ตำบลสถาน อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน นำโดยมีนายปวรวิช คำหอม (ตัวแทนสมาพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ กลุ่ม P-Move) นายสิทธิพล สอนใจ และนายสงกรานต์ ต๊ะติ๊บ ตัวแทนกลุ่มฯ พร้อมกับราษฎรจำนวน 255 คน เข้ายื่นหนังสือต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดน่าน ณ ศาลากลางจังหวัดน่าน ตำบลไชยสถาน อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน จากนั้นแกนนำพร้อมตัวแทนชาวบ้านจำนวน 15 คน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องประชุมปรึกษาทำความเข้าใจที่ห้องประชุมชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดน่าน
ด้านนายปวรวิทย์ คำหอม หนึ่งในชาวบ้านที่เข้าร่วมยื่นหนังสือ กล่าวว่า ในระดับนโยบาย ร.อ.ธรรมนัส พรมเผ่า สมัยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกนะทรวงเกษตรฯ ได้พูดในที่ประชุมในการแก้ไขปัญหาของกลุ่ม P-Move ว่า คดีนี้ให้ยุติและได้สั่งการมายังพื้นที่แล้ว โดยทางตำรวจได้ทำสำนวนความเห็นสั่งไม่ฟ้องให้ทางอัยการจังหวัดแล้ว แต่ทำไมทางอัยการก็ยังมีเงื่อนไขอะไรถึงยังไม่สามารถดำเนินการได้ ต้องแยกสำนวนคดีเป็นรายบุคคล ในวันนี้เองพี่น้องชาวบ้านเลยมายื่นหนังสือทวงถามทิศทางในการดำเนินคดีขอให้ยุติเพื่อไม่ให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบในด้านคดีความ เพื่อจะได้กลับเข้าไปทำมาหากินเลี้ยงชีพในพื้นที่เดิม
โดยหลังจากตัวแทนกลุ่มชาวบ้านได้ปรึกษาหารือและฟังคำชี้แจงจากหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องได้มีข้อตกลงร่วมกัน สรุปผลการประชุมหารือการแก้ไขปัญหาของราษฎรไร่น้ำหิน ตำบลสถาน อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน ได้ดังนี้ คือการที่สำนวนคดีต้องกลับไปให้พนักงานสอบสอนทำสำนวนสอบสวนแยกแต่ละรายเนื่องจากอัยการจังหวัดน่านได้หารือไปยังอัยการภาค 5 ว่าสามารถทำสำนวนรวมได้หรือไม่โดยทางอัยการภาค 5 แจ้งกลับมาว่าต้องแยกทำสำนวนเป็นรายบุคคล
การทำสำนวนคดี ทางพนักงานสอบสวนจะต้องส่งสำนวนใหม่ของพยานทั้ง 262 ราย ให้อัยการจังหวัดน่าน เพื่อให้ความเห็นเสนอไปยังอัยการสูงสุด สถานะของราษฎรฯทั้ง 262 ราย มีฐานะเป็นพยานยังไม่เป็นผู้ต้องหา พนักงานสอบสวนจะเร่งรัดทำสำนวนให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 โดยทางนายอำเภอนาน้อย รับเป็นผู้ประสานงาน ในการรายงานความก้าวหน้าให้ชาวบ้านได้รับทราบทุกสัปดาห์ จนกว่าสำนวนจะแล้วเสร็จ และถ้าพิสูจน์ได้ว่าพื้นที่ใดอยู่นอกเขตสวนป่าทางพนักงานสอบสวนจะได้เชิญหน่วยงานป่าไม้เข้าชี้แจงให้ถ้อยคำเพื่อที่จะงดการสอบสวนหรือดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
หลังแกนนำชี้แจงให้ชาวบ้านรับฟัง เป็นที่พอใจจึงแยกย้ายเก็บของกลับไปยังภูมิลำเนา โดยไม่มีเหตุรุนแรงหรือกระทบกระทั่งกันระหว่างชาวบ้านกับเจ้าหน้าที่รัฐ
อ่านบทความและอื่น ๆ ( ชาวบ้านกว่า 200 คน ร้องขอความเป็นธรรมหน้าศาลากลาง จ.น่าน หลังถูกดำเนินคดีบุกรุกป่า - ช่อง 7 )https://ift.tt/3zYjsCj
บ้าน
Bagikan Berita Ini
0 Response to "ชาวบ้านกว่า 200 คน ร้องขอความเป็นธรรมหน้าศาลากลาง จ.น่าน หลังถูกดำเนินคดีบุกรุกป่า - ช่อง 7"
Post a Comment