HUAWEI เปิดตัว HUAWEI Vision S : Beyond TV จอภาพอัจฉริยะความละเอียดสูง 4K รีเฟรช 120Hz ขนาดใหญ่สุดถึง 65 นิ้วขุมพลัง HormonyOS พร้อมสโลแกน Beyond TV เป็นมากกว่าสมาร์ททีวีทั่วไปโดดด้วยกล้อง Magnetic Camera ความละเอียด 13 ล้านพิกเซลถอดออกได้ง่ายๆ รองรับการใช้งาน MeeTime หรือประชุมและเรียนออนไลน์ และยังช่วยขยายภาพให้กับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ของ HUAWEI เพื่อให้ใช้งานได้อย่างเต็มตา เต็มอารมณ์มากยิ่งขึ้น ผ่านการเชื่อมต่อกันอย่างง่ายดายเพียงแค่แตะสมาร์ทโฟนกับรีโมทคอนโทรล ก็สามารถวิดีโอคอล, เล่นเกม, สตรีมวิดีโอ, แชร์หน้าจอออกบน HUAWEI Vision S ได้อย่างราบรื่น แต่นอกเหนือจากนี้ HUAWEI Vision S ยังมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง เลื่อนลงมาชมรีวิวจากทีมงาน @Flashfly กันได้เลย
สเปก HUAWEI Vision S รุ่น 65 นิ้ว
- จอภาพ 4K UHD ขนาด 65 นิ้ว รีเฟรทเรทสูง 120Hz
- ระบบเสียง HUAWEI Sound พร้อมลำโพง 4 ตัว
- ไมโครโฟน 6 ตัว (6 Mic Far-field Voice Pickup)
- กล้อง 13 ล้านพิกเซล (Magnetic Camera)
- ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS
- รองรับฟีเจอร์ MeeTime Video Call, MeeTime Video Call Transfer, Home Camera, OneHop Projection, Mirror Control, Huawei Share, Distributed Gaming, AI Voice, AI Speaker Mode
- ความจำ RAM 3GB + ROM 32GB
- การเชื่อมต่อ Wi-Fi (2.4/5GHz), HDMI 2.0 (3 ช่อง), AV In, USB 3.0, SPDIF
- รีโมทคอนโทรล รองรับ Bluetooth และ NFC
- ขนาด 1449.3 x 837.2 x 72.1 มิลลิเมตร (ไม่รวมฐาน)
- น้ำหนักประมาณ 19.5 กิโลกรัม (ไม่รวมฐาน)
ดีไซน์ไร้กรอบขอบบางสุด 9.9 มิลลิเมตร
จอภาพอัจฉริยะ HUAWEI Vision S มีดีไซน์ที่สวยงามทันสมัย ส่วนกรอบทำมาจากวัสดุสแตนเลสคุณภาพสูง โดดเด่นที่ขอบจอรอบด้านมีความบางเเฉียบจนดูเหมือนไร้กรอบ จนทำให้มีอัตราส่วนหน้าจอตัวเครื่องสูงถึง 94% ขณะที่จอภาพก็มีขนาดใหญ่สุด 65 นิ้ว โดยมีรุ่น 55 นิ้ว ให้เลือกด้วย แต่ทีมงานได้รับรุ่น 65 นิ้ว มารีวิว
ด้านบนมีกล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ซึ่งแนบติดกับจอภาพด้วยแม่เหล็ก จึงสามารถถอดกล้องออกและแนบติดกลับไปใหม่ได้อย่างง่ายดาย
ด้านล่างของจอภาพติดตั้งไมโครโฟนมาให้ 6 ตัว สามารถจับเสียงได้รอบทิศทางจากระยะไกล จึงสามารถสนทนาแบบวิดีโอคอลได้อย่างชัดเจน รวมถึงใช้สั่งงานด้วยเสียงผ่าน AI Voice และ AI Speaker Mode
มุมมองด้านข้างจะเห็นส่วนกรอบจอที่บางเพียง 9.9 มิลลิเมตร แต่ส่วนที่หนาที่สุดอยู่ที่ 72.1 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ของพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ ได้แก่ HDMI 2.0 (3 ช่อง), AV, USB 3.0 และ SPDIF อีกด้านจะมีช่องสำหรับเสียบสายไฟ
ด้านหลังมีจุดเชื่อมต่อสำหรับแขวนจอภาพกับขาตั้ง VESA ด้านล่างจะมีสติกเกอร์บอกรายละเอียดตัวเครื่อง
แผงด้านหลังมีช่องระบายความร้อนเป็นแนวยาว
ข้างใต้จะมีปุ่ม Power และทางด้านซ้ายขวาติดตั้งลำโพงมาให้ 4 ตัว ประกอบด้วย ลำโพงความถี่เต็ม 10W (2 ตัว) และทวีตเตอร์ 10W (2 ตัว)
ส่วนฐานรองหรือขาตั้งทำมาจากวัสดุสแตนเลสคุณภาพสูง จึงมั่นใจได้ถึงความมั่นคงแข็งแรง เมื่อติดตั้งกับจอภาพ HUAWEI Vision S รุ่น 65 นิ้ว เรียบร้อยแล้ว จะต้องการพื้นที่สำหรับวางไม่น้อยกว่า 144.93 x 87.64 x 33.67 เซนติเมตร (กว้าง x สูง x ลึก)
สำหรับรีโมทคอนโทรลที่แถมมาให้ รองรับการเชื่อมต่อกับจอภาพผ่าน Bluetooth จึงสามารถควบคุมการทำงานได้อย่างแม่นยำในระยะไกลสุด 10 เมตร โดยไม่จำเป็นต้องชี้รีโมทไปทางจอภาพ และยังมีชิป NFC สำหรับแตะกับสมาร์ทโฟนเพื่อใช้งานฟีเจอร์ OneHop Projection
จอภาพสีสันสวยงามคมชัด 4K รีเฟรชสูง 120Hz
HUAWEI Vision S ใช้จอภาพ LCD พร้อมแบ็คไลท์ LED มีความละเอียดสูง 4K UHD รองรับขอบเขตสี 92% DCI-P3 ให้ความสว่าง 350 นิต อัตราส่วนคอนทราสต์ 5000:1 อัตราส่วนภาพ 16:9 และด้วยส่วนขอบที่บางเฉียบ ทำให้มีอัตราส่วนหน้าจอตัวเครื่องสูงถึง 94% ขนาด HUAWEI Vision S มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ 55 นิ้ว และที่ทีมงาน @Flashfly ได้รับมารีวิว คือรุ่น 65 นิ้ว โดยทั้ง 2 รุ่น มีสเปกหน้าจอแบบเดียวกัน แตกต่างกันที่ขนาดและกำลังไฟเท่านั้น
จุดเด่นของ HUAWEI Vision S คือสนับสนุนอัตราการรีเฟรชหน้าจอสูงสุด 120Hz จึงแสดงภาพเคลื่อนไหวของภาพยนตร์หรือเกมได้อย่างราบรื่น และในกรณีรับชมภาพยนตร์ ก็ยังเสริมด้วยเทคโนโลยี Smart MEMC (Motion Estimation and Motion Compensation) ช่วยชดเชยภาพในช่วงที่มีเฟรมเรทต่ำให้สูงขึ้นเป็น 120 เฟรมต่อวินาที ทำให้ภาพเคลื่อนไหวราบรื่น เหมาะสำหรับการรับชมวิดีโอที่มีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการแข่งรถหรือหนังแอคชั่น และยังมี Super Resolution Turbo ช่วยปรับภาพวิดีโอความละเอียดต่ำให้มีความละเอียดเพิ่มมากขึ้น
ไม่เพียงแต่ให้ภาพที่สวยงามคมชัด HUAWEI Vision S ยังใส่ในในเรื่องความปลอดภัยของดวงตา โดยมาพร้อมเทคโนโลยีลดแสงสีฟ้าที่ผ่านการรับรอง TÜV Rheinland Certified Low Blue Light และยังลดการกระพริบของภาพเพื่อปกป้องและถนอมดวงตาของผู้ใช้งาน
กล้อง Magnetic Camera ความละเอียด 13MP ถ่ายภาพมุมกว้าง 180 องศา
HUAWEI Vision S มาพร้อมความละเอียดสูง 13 ล้านพิกเซล ที่ถ่ายภาพมุมกว้างได้ 180 องศา โดยเชื่อมต่อกับส่วนบนของจอภาพด้วยแม่เหล็ก ดังนั้น การติดตั้งจึงทำได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และถ้ากังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว ก็สามารถถอดออกได้อย่างง่ายดาย
กล้อง 13MP Magnetic Camera มีไว้ใช้สนทนาแบบเห็นหน้าหรือ Video Call ผ่านแอปพลิเคชั่น MeeTime ที่ติดตั้งมาให้อยู่แล้วใน HUAWEI Vision S สำหรับสนทนากับผู้ใช้อุปกรณ์อื่นๆ ของ HUAWEI ที่ติดตั้งแอป MeeTime ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และสมาร์ทวอทช์ โดยให้ภาพที่คมชัดในระดับ Full HD 1080P หรือ จะสื่อสารด้วยเสียงอย่างเดียวก็ได้เช่นกัน ซึ่งปลายสายจะได้ยินเสียงของผู้ใช้งานอย่างคมชัดผ่านไมโครโฟน 6 ตัว (6 Mic Far-field Voice Pickup) ที่ติดตั้งไว้ใต้จอ
HUAWEI Vision S ยังรองรับฟีเจอร์ MeeTime Video Call Transfer สำหรับผู้ใช้งานที่เป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนของ HUAWEI โดยสามารถโอนสายจาก MeeTime ในสมาร์ทโฟนไปยัง HUAWEI Vision S ได้อย่างง่ายดาย เพื่อสนทนาผ่านจอภาพขนาดใหญ่ของ HUAWEI Vision S ซึ่งให้ประสบการณ์ที่ดีกว่าการสนทนาบนสมาร์ทโฟน ด้วยความคมชัดทั้งภาพและเสียง อย่างไรก็ตาม สมาร์ทโฟนที่จะใช้งานร่วมกับ HUAWEI Vision S ต้องทำงานบนระบบปฏิบัติการ EMUI 10.0 ขึ้นไป และเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi เดียวกัน
นอกจากนี้ กล้อง 13MP Magnetic Camera ยังใช้ถ่ายภาพได้อีกด้วยผ่านฟีเจอร์ Home Camera โดยสามารถจับภาพในความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล และสามารถเปิดดูภาพย้อนหลังได้จากแอป Gallery ที่ติดตั้งมาให้อยู่แล้ว
ระบบเสียง HUAWEI Sound พร้อมลำโพง 4 ตัวสุดกระหึ่ม
ข้างใต้ของ HUAWEI Vision S มาพร้อมตู้ลำโพง 1L ขนาดใหญ่ ภายในติดตั้งลำโพงมาให้ 4 ตัว ประกอบด้วย ลำโพงความถี่เต็ม 10W (2 ตัว) และทวีตเตอร์ 10W (2 ตัว) ให้เสียงคุณภาพสูงในทุกช่วงความถี่ โดยมีการปรับเทียบเสียง (Sound Calibration) ลําโพงทั้ง 4 ตัว ผ่านขั้นตอนที่เข้มงวด ไม่ว่าจะเป็นการทดสอบบนลําโพงแต่ละตัว และยังคงทดสอบลําโพงหลังจากติดตั้งส่วนประกอบทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ทำให้ HUAWEI Vision S เป็นอุปกรณ์โฮมเธียเตอร์โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับลำโพงเครื่องเสียงภายนอก
HUAWEI Vision S รองรับนวัตกรรมอัลกอริทึมเสียง HUAWEI Histen ที่ล้ำสมัย สามารถปรับและเพิ่มประสิทธิภาพของเสียงเอฟเฟกต์ได้ดียิ่งขึ้น และยังมอบประสบการณ์เสียงที่สมจริงด้วยเทคโนโลยี Virtual Surround Extension ช่วยจำลองเสียงแบบรอบทิศ ให้เสียงดังมาจากตำแหน่งจริงของคอนเท้นต์ที่กำลังรับชม ไม่ว่าจะเป็นดูหนัง ฟังเพลง หรือ เล่นเกม
สำหรับผู้ใช้งานที่ชื่นชอบการรับดูหนังเป็นพิเศษ อัลกอริทึมเสียง HUAWEI Histen ก็มาพร้อม Vocal Enhancement ที่อาศัยอัลกอริทึมรับรู้เสียงพูด เพื่อปรับเสียงพูดของตัวละครให้มีความชัดเจนมากขึ้น จึงไม่พลาดบทสนทนาที่สำคัญ โดยไม่ต้องคอยเพิ่มเสียงในช่วงที่ตัวละครมีการพูดคุย
AI Speaker Mode & AI Voice
แม้ปิดการแสดงผลของจอภาพไปแล้ว HUAWEI Vision S ก็ยังคงทำหน้าที่เป็นลำโพงระดับไฮเอนด์ได้ ผ่านโหมด AI Speaker (เมื่อเปิดใช้งานโหมด AI Speaker จะเป็นการปิดหน้าจอของ HUAWEI Vision S แต่อุปกรณ์ยังทำงานอยู่) เหมาะสำหรับการฟังเพลงโดยเฉพาะ
HUAWEI Vision S ยังมาพร้อม AI Voice หรือผู้ช่วยดิจิตอลของ HUAWEI รองรับคำสั่งเสียง เพียงพูดว่า “เฮ้ ซีเลีย” ตามด้วยคำขอที่ต้องการ เช่น เฮ้…ซีเลีย ปรับเสียงที่ระดับ 30 หรือ เฮ้ ซีเลีย เปิดหนังให้ฉันดูหน่อย เป็นต้น โดยใช้ไมโครโฟน 6 ตัว (6 Mic Far-field Voice Pickup) ที่สามารถจดจำเสียงได้อย่างแม่นยำภายในรัศมี 5 เมตร หรือจะออกคำสั่งเสียงผ่านไมโครโฟนของรีโมทคอนโทรลก็ได้เช่นกัน
การแชร์ภาพและทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่น
HUAWEI Vision S ทำงานบนระบบปฏิบัติการ HarmonyOS ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อให้ทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้อย่างราบรื่นไร้รอยต่อด้วยฟีเจอร์ Multi-device Collaboration ภายใต้แนวคิด Seamless AI Life เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานของ HUAWEI เริ่มตั้งแต่การดูหนังและฟังเพลงผ่านแอปพลิเคชั่น Video หรือ Music ที่ติดตั้งมาให้อยู่แล้ว เพียงผู้ใช้งานลงชื่อเข้าสู่ระบบด้วย HUAWEI ID บัญชีเดียวกับที่ใช้งานอยู่แล้วบนสมาร์ทโฟน ก็จะเข้าถึงคลังภาพยนตร์และคลังเพลงที่ได้รับการอัพเดทไปพร้อมกันทุกอุปกรณ์
การแชร์ภาพหน้าจอบนสมาร์ทโฟนไปแสดงผลบน HUAWEI Vision S ทำได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว ด้วยฟีเจอร์ OneHop Projection เพียงนำสมาร์ทโฟนมาแตะกับไอคอน HUAWEI Share บนรีโมท หน้าจอของสมาร์ทโฟนก็จะแสดงผลบนจอภาพขนาดใหญ่ของ HUAWEI Vision S ทันที โดยไม่ต้องเชื่อมผ่าน Wi-Fi แบบเดิมให้ยุ่งยากอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม สมาร์ทโฟนจะต้องทำงานบน EMUI 10.1 หรือเวอร์ชั่นใหม่กว่า และต้องรองรับ NFC
ฟีเจอร์ OneHop Projection ยังคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวด้วย โดยมีการซ่อนข้อความส่วนตัว (ไม่ว่าจะเป็นข้อความที่ได้รับจาก SMS หรือข้อความจากแอปโซเชียลมีเดีย) และการแจ้งเตือนระหว่างฉายภาพ แต่ใช้งานได้เฉพาะสมาร์ทโฟน HUAWEI ที่ทำงานบน EMUI 11 ขึ้นไป
กรณีสมาร์ทโฟนที่ไม่มี NFC ก็สามารถแชร์ภาพหน้าจอไปแสดงผลบนจอภาพ HUAWEI Vision S ได้ง่ายๆ ผ่านฟีเจอร์ HUAWEI Share รองรับการแชร์หน้าจอทั้งภาพถ่าย วิดีโอ เพลง รวมถึงแอปพลิเคชั่นต่างๆ และยังสามารถเลือกภาพที่ชื่นชอบมาตั้งค่าเป็นสกรีนเซฟเวอร์ได้ โดยสมาร์ทโฟนที่รองรับ HUAWEI Share จะมีไอคอน HUAWEI Share บนแผงการควบคุมของแถบสถานะ ส่วนความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลแบบไร้สายผ่าน HUAWEI Share จะขึ้นอยู่กับระยะห่างสมาร์ทโฟนกับเราเตอร์ Wi-Fi
Distributed Gaming เป็นอีกฟีเจอร์ที่ทำให้ HUAWEI Vision S น่าสนใจ เพราะออกแบบมาเพื่อเอาใจสายเกมเมอร์ ช่วยให้ผู้ใช้งานสตรีมเกมจากสมาร์ทโฟนไปออกบนจอภาพ HUAWEI Vision S แล้วเปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้กลายเป็นจอยเกมควบคุมเพื่อทุกอย่างบนจอภาพขนาดใหญ่ 65 นิ้ว จึงเล่นเกมได้อย่างเต็มตา เต็มอารมณ์ อีกทั้งยังสัมผัสได้ถึงความราบรื่น เนื่องจากมีความหน่วง หรือ Latency ที่ต่ำมาก
นอกจากรีโมทคอนโทรลที่แถมมาให้ในกล่อง HUAWEI Vision S ก็มีฟีเจอร์ Mirror Control ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุม HUAWEI Vision S ผ่านสมาร์ทโฟนได้ด้วย โดยจะเปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้กลายเป็นทัชแพดที่ควบคุมได้อย่างง่ายดาย เพียงติดตั้งแอปพลิเคชั่น HUAWEI Vision และไม่จำกัดว่าต้องเป็นสมาร์ทโฟนของ HUAWEI เท่านั้น แต่ต้องเป็นสมาร์ทโฟนแบบ 64-bit ที่ทำงานบน Android 8.0 หรือเวอร์ชั่นใหม่กว่า (กรณีใช้สมาร์ทโฟนของ HUAWEI ต้องทำงานบน EMUI 8.0 ขึ้นไป
จะสามารถใช้งาน MeeTime โทรหรือวิดีโอคอลไปยัง Huawei Vision S ได้แม้ไม่ใช่สมาร์ทโฟนของ Huawei รวมถึงยังสามารถจับภาพหน้าจอบนทีวีมายังสมาร์ทโฟนได้ทันทีกรณีประชุมออนไลน์ หรือดึงหน้าจอทีวีมายังสมาร์ทโฟนก็สามารถทำได้อย่างง่ายดายแบบสุดๆ
ที่น่าสนใจคือยังสามารถใช้ฟีเจอร์ Desktop Mode บน HUAWEI Vision S ได้อีกด้วย โดยตัวเครื่องรองรับการเชื่อมต่อเม้าส์และคีย์บอร์ด ผ่านทาง Bluetooth จึงสามารถใช้งานในรูปแบบคอมพิวเตอร์ PC ได้โดยไม่ต้องง้อคอมพิวเตอร์ได้ง่ายๆทันที
การติดตั้งแอปพลิเคชั่น
และด้วย Huawei Vision S ใช้ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS จึงทำให้รองรับแอปพลิเคชั่นมากมายที่ดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้จาก AppGallery ซึ่งทาง Huawei ก็ได้ติดตั้งแอปพลิเคชั่นที่สำคัญมาให้พร้อมใช้งานแล้วทั้ง Huawei Movie ,Huawei Music โดยในอนาคต Huawei จะเพิ่มแอปพลิเคชั่นที่น่าสนใจอย่างการปรึกษาคุณหมอผ่านหน้าจอทีได้เลยอีกด้วย
นอกจากนี้ Huawei Vision S ยังรองรับการติดตั้งแอปพลิเคชั่น Android อื่นๆผ่านทาง Petal Search ไม่ว่าจะเป็น Zoom หรือ Youtube ก็สามารถติดตั้งใช้งานได้ทันที
ซึ่งในการจัดจำหน่ายทาง Huawei ได้จัดโปรโมชั่นแถมกล่อง True ID มาให้ด้วย ซึ่งตัวกล่องเป็นระบบ Android สามารถติดตั้งแอปพลิเคชั่นหรือเกมจาก Google Play Store ได้โดยตรงอาทิ Netflix ,Disney+ Hotstar ,HBO Go ,Apple TV+ และอื่นๆได้จุใจ
เปิดตัวทางการ 1 ธันวาคมนี้
HUAWEI Vision S เป็นจอภาพอัจฉริยะที่ออกแบบมาเพื่อขยายความบันเทิงจากสมาร์ทโฟนที่มีขนาดหน้าจอจำกัด ช่วยให้ผู้ใช้งานดูหนัง เล่นเกม ฟังเพลง ได้อย่างเต็มอิ่ม ผ่านจอแสดงผลที่ให้ความคมชัด ขนาดใหญ่ถึง 65 นิ้ว (มีรุ่น 55 นิ้ว ให้เลือกด้วย) โดยมีจุดเด่นที่อัตราการรีเฟรชหน้าจอสูงสุด 120Hz ให้ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมเมื่อเชื่อมต่อไร้สายกับสมาร์ทโฟนของ HUAWEI และยังให้พอร์ต HDMI มา 3 ช่อง จะใช้ต่อกับกล่องทีวี, กล่อง Android TV, Apple TV รวมไปถึงเกมคอนโซลก็ได้เช่นกัน แต่ข้อจำกัดก็คือ ยังเป็น HDMI 2.0 ที่สนับสนุนการแสดงผล 4K ที่อัตราสูงสุด 60 เฟรมต่อวินาที ซึ่งสามารถแสดงภาพกราฟิกได้ลื่นไหลดีอยู่แล้ว
HUAWEI Vision S ยังมีจุดเด่นที่กล้อง 13 ล้านพิกเซล แนบติดกับจอภาพด้วยแม่เหล็ก สามารถ Video Call กับผู้ใช้งาน MeeTime ได้อย่างเต็มอารมณ์ รวมไปถึงการประชุมออนไลน์ การเรียนออนไลน์ ด้วยกล้องที่ให้มุมมองกว้าง ไมโครโฟน 6 ตัว ที่จับเสียงได้ไกล 5 เมตร และยังมีลำโพงคุณภาพสูง 10W จำนวน 4 ตัว ช่วยเติมเต็มความบันเทิงจากการดูหนัง ฟังเพลง และเล่นเกมได้อย่างสะใจ
สำหรับราคาและการวางจำหน่ายนั้น HUAWEI จะเปิดตัวทางการในวันที่ 1 ธันวาคมที่จะถึงนี้ โดย HUAWEI Vision S จะมีราคาเริ่มต้นที่สองหมื่นกว่าบาทในขนาด 55 นิ้ว และแพงขึ้นไปราวๆหมื่นบาทในขนาด 65 นิ้ว สำหรับโปรโมชั่นทางการติดตามได้ในวันเปิดตัว
อ่านบทความและอื่น ๆ ( รีวิว HUAWEI Vision S : Beyond TV ขนาด 65 นิ้ว 4K รีเฟรช 120Hz กล้อง Magnetic Ca - Flashfly )https://ift.tt/3nBlS6O
โฮมเธียเตอร์
Bagikan Berita Ini
0 Response to "รีวิว HUAWEI Vision S : Beyond TV ขนาด 65 นิ้ว 4K รีเฟรช 120Hz กล้อง Magnetic Ca - Flashfly"
Post a Comment