ผู้ต้องหาคดียาร้องป. กล่าวหาตร.ยัดยา ไฟช็อต ถุงคลุมหัวให้สารภาพ พ.ต.ท.โต้ไร้สาระ - มติชน

‘อัจฉริยะ’ พาผู้ต้องหาคดียาร้องกองปราบ กล่าวหาตร.ยัดยา ไฟช็อต ถุงคลุมหัวให้สารภาพ พ.ต.ท.โต้ไร้สาระ ยันปฏิบัติตามหน้าที่ถูกต้อง ศาลพิพากษาจบแล้ว

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พานายสุวัตน์ พันธแสน ผู้ต้องหาคดียาเสพติด,นางมน พันธ์แสน ภรรยา และ น.ส.เอ (นามสมมติ) เข้าพบ พ.ต.ต.นันพิพัฒน์ ยังดี สว.(สอบสวน) กก.2 บก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.บุญยิ่ง บัณทิตไทย รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ธัญบุรี และพวก ในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่า,ร่วมกันปล้นทรัพย์ และร่วมกันพรากผู้เยาว์ หลังจากถูกควบคุมตัวไปซ้อมให้รับสารภาพในคดีดังกล่าว ส่วนลูกสาวถูกกักขังเป็นตัวประกัน เมื่อปี 2550

โดยนางมน ได้แสดงวิธีการซ้อมให้รับสารภาพให้ผู้สื่อข่าวดู พร้อมเปิดเผยว่า วันเกิดเหตุ ตนอยู่ในบ้านกับลูกและสามี จู่ๆมีชายประมาณ 8 คน บุกเข้ามาในบ้าน พร้อมกับถามหาว่ายาเสพติดอยู่ที่ไหน จากนั้นได้เข้าไปมัดแขนสามีของตน และค้นหายาเสพติดภายในบ้าน แต่ไม่เจอยาดังกล่าวแต่อย่างใด พวกตนจึงถูกปิดตาและนำตัวขึ้นรถไปที่เซฟเฮ้าส์แห่งหนึ่ง โดยแยกลูกของไปอีกคัน เมื่อถึงเซฟเฮ้าส์ ตนถูกจับเข้าไปในห้องน้ำ ถูกปิดตา มัดแขน จับให้นอนลง และเอาสายไฟมารัดขา เอาน้ำราด และให้ผู้ชายคนหนึ่งมานั่งทับ ใช้ไฟฟ้าช็อต 3 ครั้ง และใช้ถุงพลาสติกมาครอบหัวตนจนหายใจไม่ออก ส่วนสามีของตนถูกซ้อมอยู่อีกห้องหนี่ง ซึ่งตนไม่เห็นว่าทำอะไรบ้าง เหตุการณ์ดังกล่าวนานเกือบ 1 ชั่วโมง จากนั้นตำรวจได้พาพวกตนมาส่งที่บ้าน ก็พบว่าตำรวจเจอยาเสพติดอยู่บริเวณนอกบ้าน เป็นของลูกน้องตน ทั้งนี้ ตนไม่ทราบเรื่องยาดังกล่าว หลังเกิดเหตุ พวกตนไม่ได้ร้องเรียนอะไร เพราะกลัวว่าจะถูกทำร้าย แต่เมื่อสามีออกมาจากคุก จึงอยากดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง

ขณะที่ นายสุวัตน์ กล่าวว่า ต้องอยู่ในคุกถึง 14 ปี หลังจากพ้นโทษ ต่อสู้มาถึง 3 ศาล ก่อนจะพ้นโทษออกมา จึงตัดสินใจร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับหน่วยงานรัฐ แต่ก็ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจกองปราบปรามให้ช่วยเรื่องคดี ที่ถูกทำร้ายร่างกาย

ขณะที่ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 28 ปี ลูกสาว เปิดเผยว่า หลังจากตนและพี่สาวถูกพาไปยังกระท่อมแห่งหนึ่ง ตำรวจประมาณ 4 คนก็หยิบกระเป๋าของแม่ตนออกมาแบ่งเงินกัน เป็นเงินประมาณ 30,000 บาท และนั่งเล่นไพ่ โดยบอกให้พวกตนอยู่เฉยๆ ต่อมาเมื่อมีโทรศัพท์แจ้งเข้ามาว่าเจอยาแล้ว พวกตนจึงได้เจอกับพ่อแม่ แม่ของตนตัวสั่นและหน้าซีด ส่วนพ่อมีรอยช้ำตามตัว ตัวเปียกโชก มีคราบเลือดที่ปาก จากนั้นตำรวจได้หยิบเอกสารออกมาให้พ่อเซ็น แต่ไม่ทราบว่าคือเอกสารอะไร ขณะเกิดเหตุ คนในละแวกใกล้เคียงได้เข้ามาดู แต่ถูกตำรวจไล่ออกไป นอกจากนี้ แม่ของตนยังต้องกดเงินให้ตำรวจไปประมาณ 100,000 บาทอีกด้วย

ด้าน นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ในวันนี้จะแจ้งความดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันพยายามฆ่า, ร่วมกันพรากผู้เยาว์ และ รวมกันปล้นทรัพย์ ขณะนี้ตนทราบตัวตำรวจชุดดังกล่าวแล้ว ซึ่งมีประมาณ 8-12 คน โดยมีตัวการหลักเป็น พ.ต.ท. ชื่อบุญยิ่ง ขณะนี้เป็นรอง ผกก.สอบสวน ที่สภ.ธัญบุรี จากการตรวจสอบ ตำรวจกลุ่มดังกล่าวได้ก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งยาเสพติดจำนวนเกือบ 4,000 เม็ดนั้น เป็นของชาวลาว 3 คน ซึ่งเป็นลูกน้องเขียงหมูของนายสุวัตน์ โดยชาวลาวทั้ง 3 คน ได้รับสารภาพแล้ว ซึ่งตนมองว่าการกระทำของตำรวจกลุ่มดังกล่าว ไม่ใช่วิธีการของตำรวจ

จากการสอบถามข้อมูลจาก พ.ต.ท.บุญยิ่ง บัณทิตไทย รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ธัญบุรี ที่ถูกกล่าวอ้างถึง พ.ต.ท.บุญยิ่ง ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ถูกร้องเรียน ยืนยันว่าตนเองและชุดจับกลุ่มได้ปฏิบัติตามหน้าที่อย่างถูกต้อง ส่วนการแจ้งความกลับก็ถือเป็นสิทธิ์ ส่วนตัวก็จะสู้คดีต่อไป พร้อมย้ำชัดว่า ไม่มีการบังคับยัดยาเสพติดให้ผู้ต้องหา รวมถึงทำร้ายร่างกายและรีบทรัพย์ ตามที่ถูกกล่าวอ้างอย่างแน่นอน

“ไร้สาระ เพราะศาลพิพากษาทุกอย่างจบหมดแล้ว หากต้องการแจ้งความเดี๋ยวเราค่อยไปว่าบนศาล ทำทุกอย่างถูกต้องตามข้อกฎหมาย” พ.ต.ท.บุญยิ่ง กล่าว

Adblock test (Why?)

อ่านบทความและอื่น ๆ ( ผู้ต้องหาคดียาร้องป. กล่าวหาตร.ยัดยา ไฟช็อต ถุงคลุมหัวให้สารภาพ พ.ต.ท.โต้ไร้สาระ - มติชน )
https://ift.tt/13ZtjoF
บ้านอัจฉริยะ

Bagikan Berita Ini